การเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ก็เหมือนกับการเลือกพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจครับ หากเลือกผิด นอกจากจะเสียเงินหลักหมื่นหลักแสนแล้ว ยังเสียเวลาและเสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย

สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ที่อาจจะไม่ได้เก่งเรื่องโค้ดหรือเทคนิค (Non-Tech) การคุยกับโปรแกรมเมอร์บางครั้งก็เหมือนคุยคนละภาษา บทความนี้ผมจึงรวบรวม 10 คำถามสำคัญ ที่คุณต้องใช้ถามก่อนควักเงินจ่าย เพื่อเช็กให้ชัวร์ว่าคุณกำลังดีลกับมืออาชีพตัวจริงครับ

1. "หลังจากทำเสร็จแล้ว ผมสามารถแก้ไขเนื้อหาเองได้ไหม?"

นี่คือคำถามที่สำคัญที่สุดครับ! คุณคงไม่อยากทักหาโปรแกรมเมอร์ทุกครั้งที่อยากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือเพิ่มรูปสินค้าใหม่

• คำตอบที่ควรได้รับ: "ได้ครับ เรามีระบบหลังบ้าน (CMS) ให้คุณจัดการเองได้ง่ายๆ พร้อมคู่มือการใช้งาน"

• คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: เว็บที่ดีควรใช้ระบบที่เป็นสากลอย่าง WordPress เพื่อให้คุณไม่ต้องยึดติดกับผู้สร้างคนเดิมไปตลอดชีวิตครับ

2. "เว็บไซต์ที่ทำ รองรับการแสดงผลบนมือถือ 100% หรือเปล่า?"

ในยุคนี้ คนมากกว่า 80% เข้าเว็บผ่านมือถือ หากเว็บสวยแค่ในคอมพิวเตอร์แต่พังในมือถือ เท่ากับคุณทิ้งลูกค้าไปมหาศาล

• คำตอบที่ควรได้รับ: "แน่นอนครับ เราออกแบบเป็น Responsive Design ที่ปรับขนาดตามหน้าจอทุกอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ"

3. "ราคาที่เสนอมา รวมค่า Domain และ Hosting หรือยัง?"

หลายคนตกใจที่ปีต่อมามีบิลเก็บเงินโผล่มาแบบไม่รู้ตัว คุณต้องเคลียร์เรื่อง "ค่าเช่าที่บนโลกออนไลน์" ให้ชัดเจน

• คำตอบที่ควรได้รับ: ควรมีความชัดเจนว่าปีแรกฟรี หรือต้องจ่ายแยกเท่าไหร่ และปีต่อไปต้องต่ออายุราคาเท่าไหร่

4. "เว็บไซต์นี้มีการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ SEO หรือไม่?"

เว็บสวยแต่ไม่มีใครหาเจอก็ไร้ความหมายครับ การทำ SEO (ให้ติดหน้าแรก Google) เริ่มต้นที่โครงสร้างเว็บ

• คำตอบที่ควรได้รับ: "เรามีการตั้งค่า Title Tag, Meta Description และจัดการโครงสร้าง H1-H3 ให้เบื้องต้นครับ"

• คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ถามเขาด้วยว่าเว็บจะโหลดเร็วไหม? เพราะความเร็วเว็บเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ Google ใช้ให้คะแนนครับ

5. "หากเว็บไซต์ล่มหรือโดนแฮก มีการสำรองข้อมูล (Backup) ให้ไหม?"

โลกออนไลน์มีความเสี่ยงเสมอ คุณต้องมี "ประกัน" ให้กับข้อมูลของคุณ

• คำตอบที่ควรได้รับ: "เรามีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติทุกสัปดาห์/ทุกเดือน และมีทีมซัพพอร์ตเมื่อเกิดปัญหาครับ"

6. "ขั้นตอนการทำงานมีอะไรบ้าง และต้องใช้เวลานานแค่ไหน?"

มืออาชีพจะมี Timeline ที่ชัดเจน ไม่ใช่บอกว่า "เสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น"

• คำตอบที่ควรได้รับ: ควรมีการแบ่งระยะเวลาเป็นขั้นตอน เช่น ออกแบบ 2 อาทิตย์, เขียนโค้ด 3 อาทิตย์, ทดสอบ 1 อาทิตย์ เป็นต้น

7. "สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเว็บไซต์เป็นของใคร?"

มีหลายเคสที่พอจะย้ายบริษัททำเว็บ แล้วพบว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์เข้าถึงชื่อโดเมนหรือไฟล์เว็บตัวเอง

• คำตอบที่ควรได้รับ: "สิทธิ์ทุกอย่างเป็นของลูกค้า 100% ครับ เราจะส่งมอบ Account ทั้งหมดให้เมื่อจบงาน"

• คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ย้ำเลยนะครับว่าชื่อโดเมน (ชื่อเว็บ) ต้องเป็นชื่อของคุณหรือบริษัทของคุณเท่านั้น!

8. "มีบริการดูแลหลังการขาย (Support) อย่างไรบ้าง?"

งานทำเว็บมักจะมีบัค (Bug) เล็กๆ น้อยๆ โผล่มาหลังจากใช้งานจริง คุณต้องรู้ว่าเขาจะยังรับสายคุณอยู่ไหม

• คำตอบที่ควรได้รับ: "เรารับประกันแก้บัคฟรี 6 เดือน - 1 ปี และมีช่องทางติดต่อด่วนเมื่อมีปัญหาครับ"

9. "ขอดูผลงานที่ผ่านมาที่ใกล้เคียงกับธุรกิจของผมได้ไหม?"

การดู Portfolio จะช่วยให้คุณเห็นรสนิยมงานดีไซน์ และความเข้าใจในอุตสาหกรรมนั้นๆ ของเขา

• คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: อย่าดูแค่รูปภาพนิ่งๆ ให้ลองเอาชื่อเว็บที่เขาเคยทำไปเปิดดูในมือถือจริงๆ ว่าใช้งานลื่นไหม

10. "ถ้าผมต้องการเพิ่มฟีเจอร์ในอนาคต ระบบนี้รองรับไหม?"

ธุรกิจต้องเติบโต วันนี้คุณอาจจะแค่อยากได้เว็บให้ข้อมูล แต่วันหน้าคุณอาจจะอยากได้ระบบตะกร้าสินค้า

• คำตอบที่ควรได้รับ: "ระบบที่เราเลือกใช้สามารถต่อยอด (Scalable) ได้ครับ ไม่ต้องรื้อทำใหม่ทั้งหมด"

ก่อนเริ่มโปรเจกต์

การถามคำถามเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพ แต่ยังเป็นการ "ลองใจ" ผู้รับจ้างด้วยว่าเขามีความจริงใจและมีความเป็นมืออาชีพมากแค่ไหน บริษัทที่ตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ไม่กำกวม คือบริษัทที่คุณควรฝากธุรกิจไว้ในมือเขาครับ

อ่านต่อ คู่มือการจ้างทำเว็บไซต์ฉบับสมบูรณ์ เตรียมตัวอย่างไรให้ได้เว็บสวย ใช้งานได้จริง และคุ้มค่าการลงทุน

ไม่อยากเสี่ยงโดนทิ้งงาน? มาคุยกับเราก่อนได้ครับ!

เราเข้าใจดีว่าเจ้าของธุรกิจต้องการความชัดเจน เราพร้อมตอบทุกคำถามทั้ง 10 ข้อนี้ (และคำถามอื่นๆ ที่คุณสงสัย) ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและโปร่งใสที่สุด